Demand of Alternative Energy for Vehicles at HuaHin, Prachubkhilikhun Province
Abstract
เพื่อศึกษาความต้องการใช้พลังงานทดแทน ผู้วิจัยจึงให้ความสำคัญต่อการศึกษาอุปสงค์ของพลังงานทดแทนสำหรับยานพาหนะในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานทดแทน ศึกษาพฤติกรรมการใช้พลังงานทดแทนสำหรับยานพาหนะ รวมถึงการศึกษาทัศนคติทางการตลาดที่มีต่อความต้องการใช้พลังงานทดแทน ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานทดแทน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.9995 โดยมีการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มสูงขึ้น ค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ 37.71 และมีปัจจัย 5 ปัจจัยที่มีผลต่อความต้องการใช้พลังงานทดแทน ได้แก่ ราคาพลังงานทดแทน ค่าสัมประสิทธ์เท่ากับ -0.78 ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.9995 รายได้ของผู้ใช้พลังงานทดแทน ค่าสัมประสิทธ์เท่ากับ 0.001 ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.995 ระยะทางการใช้พลังงานทดแทน ค่าสัมประสิทธ์เท่ากับ 4.89 ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.9995 ราคายานพาหนะ ค่าสัมประสิทธ์เท่ากับ 2.69 ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.99 และอัตราการสิ้นเปลืองการใช้พลังงานทดแทน ค่าสัมประสิทธ์เท่ากับ -0.01 ณ ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 99.99 ความสัมพันธ์ระหว่างผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานทดแทนกับปัจจัยต่างๆ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญร้อยละ 58.01 ลักษณะของเส้นอุปสงค์ระหว่างราคาพลังงานทดแทนและปริมาณพลังงานทดแทนมีลักษณะตรงกันข้ามกันตามทฤษฎี ผลการศึกษาด้านทัศนคติทางการตลาดความต้องการใช้พลังงานทดแทน พบว่า ด้านราคาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในความต้องการใช้พลังงานทดแทนสำหรับยานพาหนะในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความพึงพอใจในเกณฑ์มากสำหรับแนวทางการปรับปรุงการพัฒนาการใช้พลังงานทดแทนผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสำคัญต่อความเพียงพอของจำนวนสถานีที่ให้บริการ และคุณภาพของพลังงานทดแทนเพื่อลดการสึกหรอและการบำรุงรักษาของเครื่องยนต์น้อยลง